วิถีชาวน้ำ…วิถีสองแคว

 วิถีชาวน้ำ...วิถีสองแคว


ตั้งแต่โบราณกาลนานมาปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดผู้คนมาลงหลักปักฐานสร้างบ้านแปงเมืองคือแหล่งน้ำ ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ ลำธาร  ห้วย หนอง คลอง หรือบึง เมื่อชุมชนขยายตัวมากขึ้น ชุมชนที่มีทางสัญจรติดต่อได้หลากหลายเส้นทางก็เจริญรุ่งเรือง ครึกครื้นกว่าถิ่นอื่นด้วยสะดวกในการเป็นแหล่งรวบรวม แลกเปลี่ยน ซื้อขายสินค้ากับหลากชุมชน หลากวัฒนธรรม...


เมื่อชุมชนขยายตัวการเก็บเกี่ยวผลผลิตทั้งจากแรงสร้างของตัวเองและแรงสร้างของธรรมชาติมีมากเกินกว่าการใช้สอยในชุมชนและละแวกใกล้เคียง การเดินทางแลกเปลี่ยน ค้าขายไปยังชุมชนหรือเมืองที่ห่างไกลออกไปจึงเกิดขึ้น...


ชุมชนชาวน้ำน่านก็เช่นเดียวกัน  จากต้นน้ำลงมามีชุมชนที่สำคัญคืออุตรดิตถ์  ด้วยเป็นแหล่งรวบรวมขนถ่ายสินค้าจากเมืองแพร่ น่าน และหลวงพระบาง...


พิษณุโลก : มุมมองขึ้นไปทางด้านทิศเหนือของลำน้ำน่านด้านล่างขวามือหลังคาสังกะสีคือตลาดยี่สาน(ตลาดขายของแห้ง)

ภาพโดย :  Robert Larimore Pendleton,April 1952.


“…มีเรือแพแลตลอด ตั้งแต่ท่าอิฐลงมาจนถึงบางโพ ให้นับดูในเวลานี้มีจำนวนแพ ๔๐ หลัง เรือใหญ่ ๒๔๒ ลำ แต่เขาบอกว่าเปนเวลาเรือน้อย ด้วยฤดูนี้ชาวเรือพาสินค้าลงไปขายอยู่ปากน้ำโพมาก…ลองนับแพและเรือขนาดใหญ่...ซึ่งจอดอยู่ปากน้ำโพทางแควใหญ่(แม่น้ำน่าน) ในเวลานี้มีจำนวนแพ ๑๖๔ แพ เรือ ๕๙๐ ลำ แควน้อย(แม่น้ำปิง)แลตลาดบนบกต่างหาก… “ (สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ,รายงานการเสด็จตรวจราชการหัวเมืองฝ่ายเหนือ พ.ศ. ๒๔๔๑)...


เมืองอื่น ๆ ตลอดลำน้ำน่านก็มีความสำคัญไม่น้อยเพราะทั้ง พิษณุโลกและพิจิตรก็เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญ ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เมืองพิษณุโลกจะมีเรือ แพเรียงรายริมสองฝั่งน้ำ ทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและการค้าขาย...


“…ตั้งแต่บ้านท่าอิฐบางโพลงมาจนถึงปากน้ำโพ ที่ดินสองฟากน้ำราบเรียบเป็นที่ทุ่งนาทั้งสิ้น ริมแม่น้ำก็เป็นสวนยาสูบสวนฝ้ายหมากมะพร้าวแลถั่วงาต่าง ๆ มีบ้านราษฎรทั้งสองฟากน้ำตลอดมา…” (หลวงเทศาจิตรพิจารณ์,ว่าด้วยแม่น้ำที่มีในประเทศสยาม)…


ว่าด้วยเรื่องการอยู่อาศัยในแพของพิษณุโลกในสมัยก่อนนั้นไม่ได้เป็นเรื่องน่าแปลกอันใดเพราะผู้คนต่างมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำอย่างแนบแน่น  แม้แต่ พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร(เชย กัลยาณมิตร)ข้าหลวงเทศาภิบาล มณฑลพิษณุโลก  และกรมการเมือง ก็พักอาศัยอยู่ในแพ…



“…ตัวพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตรเองชอบอยู่แพ ยังไม่ใคร่สร้างบ้านเรือนอยู่บนบกพ่วงแพทำกันงาม ๆ มากดีกว่าแพในกรุงเทพฯ...ฝั่งตวันตกมุมเหนือตอนใต้เปนที่อยู่พระยาไชยบูรณ (ปลัดผู้ว่าราชการ เมืองพิษณุโลก) ตัวอยู่แพ บนบกเปนเรือนโรงอย่างกำมะลอ...” (สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ,รายงานการเสด็จตรวจราชการหัวเมืองฝ่ายเหนือ พ.ศ. ๒๔๔๑)...


พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในคราวเสด็จเททองหล่อพระพุทธชินราชจำลอง ในปี พ.ศ.๒๔๔๔  เมื่อเสด็จมาถึงบ้านขะมัง(ฆะมัง) ก็ทรงใช้แพเป็นพลับพลา...

“…จึงได้ถอยแพพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร แลกรมการลงมาจอดเรียงกันเปนพลับพลา แพนั้นทำใหญ่โต แลรูปร่างแปลกกว่าที่แพในกรุงเทพฯ กั้นห้องหับสนุกสนานมาก ดูเหมือนกับเรือนบนบกเปนที่สบายไปหมด…” (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว,พระราชหัตถเลขาคราวเสด็จมณฑลฝ่ายเหนือ)...



…วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สิ่งที่เราว่าสวยงาม น่ามอง แท้จริงแล้วยังคงเป็นวิถีของเราอยู่หรือไม่…

—————————————————————————————————————————-

หนังสืออ้างอิง


#เรือนแพ #ชุมชนริมน้ำ #วิถีชาวน้ำ #รอบเรื่องเมืองสองแคว

สุวัฒน์  หม่นมั่น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิถีชาวน้ำ…วิถีสองแคว (2)

จาก “ชาโขล” มา “ชะโคล่” จึงมาเป็น “สระโคล่”

วัดสะกัดน้ำมัน…พิษณุโลก