จากพระอัฏฐารส เมืองพิษณุโลก…สู่พระศรีสรรเพชญ์ กรุงศรีอยุธยา

จากพระอัฏฐารส เมืองพิษณุโลก…สู่พระศรีสรรเพชญ์ กรุงศรีอยุธยา


     พระศรีสรรเพชญ์ เป็นพระประธานอยู่ในวิหารของวัดพระศรีสรรเพชญ์ ถูกกล่าวถึงในพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ สรุปความได้ว่า… เมื่อปี พ.ศ. 2043 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงโปรดให้หล่อพระศรีสรรเพชญ์ เป็นพระพุทธรูปยืนสูง 8 วา (ประมาณ 16 เมตร) พระพักตร์ยาว 4 ศอก (ประมาณ 2 เมตร) กว้าง 3 ศอก (ประมาณ 1.5 เมตร) พระอุระกว้าง 11 ศอก (ประมาณ 5.5 เมตร) ใช้ทองหล่อน้ำหนัก 5,300 ชั่ง  ทองคำน้ำหนัก 286 ชั่ง…



     นอกจากนี้ยังมีกล่าวถึงในบันทึกของชาวต่างชาติที่น่าสนใจดังนี้…


“ส่วนกลางพระอารามแห่งนี้ค่อนข้างจะคับแคบและมืดไปสักหน่อย มีชวาลาจุดตามประทีปไว้ 50ดวง พอไปถึงที่สุดตอนกลางพวกเราก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอันมาก ด้วยได้เห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่หุ้มด้วยทองคำหนาถึง 3 นิ้วฟุตทั้งองค์ เป็นความจริงพระพุทธรูปองค์นี้สูงประมาณ 42 ฟุต(ประมาณ 12 เมตรกว่า) ส่วนกว้างประมาณ 13-14 ฟุต เขาพูดกันว่าทองคำที่หุ้มนั้นมีน้ำหนักถึง 12,400,000 ปอนด์ฝรั่งเศส (คิดอย่างน้ำหนักทองคำ) พระองค์นี้เป็นพระพุทธรูปยืน ใหญ่สูงกว่าพระพุทธรูปหล่อองค์อื่นในประเทศใดๆ ที่ใกล้เคียง”  (จากบันทึก ฟร็องซัว เดอ ชัวซี)…

ซ้าย : ภาพจำลองพระศรีสรรเพชญ์ จาก www.kidyang.com

ขวา : พระอัฏฐารส วัดวิหารทอง พิษณุโลก (ปัจจุบัน วัดสระเกศ) www.manasikul.com


“เข้าไปมีแท่นยกพื้นคล้ายเวทีคณะร้องเพลงสวดในโบสถ์ฝรั่ง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปอันมีค่ามากของราชอาณาจักร เขาให้ชื่อวัดตามชื่อพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายใน พระพุทธรูปองค์นี้สร้างประทับยืน ยอดพระเศียรจรดหลังคาพระอุโบสถมีความสูงราวสี่สิบห้าฟุต (ประมาณ 13 เมตรกว่า)และกว้างราวเจ็ดหรือแปดฟุต สิ่งที่น่าอัศจรรย์คือเป็นทองทึบทั้งองค์  พระพุทธรูปขนาดนี้น่าจะต้องใช้ทองคำไม่ต่ำกว่าร้อยหาบ และจะต้องมีมูลค่าประมาณสิบสองล้านห้าหมื่นลีเวรอะเขาว่ากันว่าพระพุทธรูปขนาดมหึมานี้ได้รับการหล่อหลอมตรงที่ประดิษฐานนั่นเอง แล้วจึงสร้างพระอุโบสถครอบต่อภายหลัง”(จากบันทึก กีย์ ตาชาร์ด)…


     แม้ว่าบันทึกต่าง ๆ จะกล่าวถึงรายละเอียดไม่ตรงกัน แต่ก็พอสรุปใจความสำคัญได้ว่า “พระศรีสรรเพชญ์” เป็นพระพุทธรุปหล่อ ประทับยืนขนาดใหญ่ สูงเกินกว่า 10 เมตร…

ซ้าย : ภาพจำลองพระศรีสรรเพชญ์ จาก ละครศรีอโยธยา www.facebook.com/SriAyodhayaOfficial 

ขวา : พระอัฏฐารส วัดวิหารทอง พิษณุโลก (ปัจจุบัน วัดสระเกศ) www.manasikul.com


     ย้อนกลับมาที่สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ผู้ทรงโปรดให้หล่อพระศรีสรรเพชญ์นั้น ทรงมีพระนามเดิมว่า “พระเชษฐา” เป็นพระราชโอรสใน “สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ” ทรงพระราชสมภพ เมื่อปี พ.ศ.2015 ที่เมือง “พิษณุโลก” จนในปี พ.ศ.2034 จึงได้ทรงเสด็จไปเสวยราชสมบัติที่กรุงศรีอยุธยา…


     จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่า สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงประทับอยู่ที่เมืองพิษณุโลกเกือบ 20 ปี จึงไม่น่าแปลกใจที่จะทรงคุ้นเคยและประทับใจในความงดงาม ของ “พระอัฏฐารส” วัดวิหารทอง เมืองสองแคว ดังนั้น เมื่อทรงโปรดให้หล่อพระยืนขนาดใหญ่ จึงอาจใช้แรงบันดาลใจจากพระอัฏฐารส ให้เป็นต้นแบบ และเพิ่มขนาดองค์พระให้ยิ่งใหญ่เหนือพระพุทธรูปหล่อองค์ใดในราชอาณาจักร…


     ปัจจุบัน แม้ว่าจะไม่มี “พระศรีสรรเพชญ์” ให้กราบไหว้ ชื่นชมแล้ว แต่เรายังคงมี “พระอัฏฐารส เมืองพิษณุโลก” (ปัจจุบันอยู่ที่วัดสระเกศ) ที่เป็นต้นแบบ ซึ่งสะท้อนถึงความงดงามและยิ่งใหญ่ ของ “พระศรีสรรเพชญ์” ในอดีต…


ภาพและข้อความอ้างอิง : www.kidyang.com/post/ข้อเสนอ-พระศรีสรรเพชญ์-ผ่านมุมมองสถาปัตย์

ภาพโดย : www.manasikul.com

ภาพจากละครโทรทัศน์ “ศรีอโยธยา” www.facebook.com/SriAyodhayaOfficial


 #เรื่องเล่าหนุกๆ  #เมืองสองแคว #พระศรีสรรเพชญ์ #พระอัฏฐารส #วัดวิหารทอง

สุวัฒน์  หม่นมั่น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิถีชาวน้ำ…วิถีสองแคว (2)

จาก “ชาโขล” มา “ชะโคล่” จึงมาเป็น “สระโคล่”

วัดสะกัดน้ำมัน…พิษณุโลก